เชื่อว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนย่อมอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม อยากให้ลูกได้เจอเพื่อนที่ดี ได้กินอาหารที่อร่อย ได้ไปเที่ยวที่สวย ๆ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และที่สำคัญที่สุดคือได้รับการศึกษาที่ดี เพราะการศึกษาที่ดีคือรากฐานของทุกอย่าง
และแน่นอนว่า ‘การศึกษาคือการลงทุน’ ในเมื่อเราอยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด การส่งลูกเรียนเมืองนอก อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับพ่อแม่บางคน ด้วยความคิดที่ว่า การได้รับการศึกษาที่ดีในต่างประเทศ จะช่วยให้ลูกเติบโตและประสบความสำเร็จในชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม การส่งลูกเรียนเมืองนอกต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย ดังนั้นพ่อแม่จึงควรวางแผนและเตรียมความพร้อมให้รอบคอบ
ค่าใช้จ่ายในการเรียนเมืองนอก
ค่าใช้จ่ายในการเรียนเมืองนอก ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่
1. ค่าเล่าเรียน
เป็นค่าใช้จ่ายหลักที่หนีไม่พ้นในการเรียนเมืองนอก โดยค่าเล่าเรียนที่จะพูดถึงในวันนี้ จะโฟกัสไปที่ระดับปริญญาตรีและระดับปริญญาโท ค่าเล่าเรียนจะแตกต่างกันไปตามประเทศและระดับการศึกษา ซึ่งสามารถดูสรุปได้จากภาพด้านล่าง ข้อมูลเหล่านี้ผ่านการรวบรวมทางเว็บไซต์ของมหาลัยอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว
2. ค่าครองชีพ
เป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นในการใช้ชีวิต เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าประกันสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งค่าครองชีพจะแตกต่างกันไปตามประเทศที่ไปเรียน อย่างค่าครองชีพในสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นที่ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือประมาณ 35,000 บาทต่อเดือน ส่วนค่าครองชีพที่อังกฤษ เริ่มต้นที่ประมาณ 800 ปอนด์ต่อเดือน หรือประมาณ 36,000 บาทต่อเดือน
3. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยในการเตรียมตัวก่อนเดินทางไปเรียนอีก ไม่ว่าจะเป็น ค่าวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าทำเอกสาร ค่าตรวจสุขภาพ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์และสิ่งของต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องพกติดไปด้วย รวมถึงเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงอีก
วางแผนและเตรียมความพร้อม
เมื่อเราพอทราบถึงจำนวนค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เราสามารถทำต่อไปได้คือการวางแผนและเตรียมความพร้อม การส่งลูกเรียนเมืองนอกต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย ควรวางแผนให้รอบคอบตั้งแต่เนิ่น ๆ ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี เพราะถ้าเริ่มวางแผนตั้งแต่ลูกยังเล็ก ก็สามารถมีเวลาเก็บเงินและศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดได้ ยกตัวอย่างเช่น
● วางแผนค่าใช้จ่ายโดยประมาณ – โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเทศที่ไปเรียน ระดับการศึกษา ระยะเวลาที่เรียน เป็นต้น
● หาแหล่งเงินทุน – เช่น เก็บเงินออม ลงทุนในด้านต่าง ๆ สมัครทุนการศึกษา เป็นต้น
● ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย – นอกจากนี้ยังรวมไปถึงหลักสูตรและคณะต่าง ๆ ที่ลูกสนใจหรือต้องการให้ลูกเรียนด้วย
สำหรับคนไหนพ่อแม่ที่มีงบประมาณจำกัด อาจพิจารณาขอทุนการศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ หรือจากหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายได้ นอกจากนี้ การทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์และแบบประกันชีวิตควบการลงทุน AIA Infinite Wealth และ AIA Infinite Gift Prestige ที่ออกแบบมาเพื่อวางแผนอนาคตให้กับคนที่คุณรัก ช่วยคุณเตรียมความพร้อมด้านการเงินในอนาคตสำหรับลูก โดยมอบความคุ้มครองที่มั่นคงและผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้คุณมั่นใจได้ว่าลูกจะได้รับการศึกษาที่ดีและเติบโตอย่างมีคุณภาพ
สนใจสมัคร AIA Infinite Wealth และ AIA Infinite Gift Prestige กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับคุณ