เพราะลูกน้อยคือดวงใจของพ่อแม่
การลงทุนกับสุขภาพของเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณพ่อคุณแม่หรือคนที่กำลังวางแผนจะมีลูก ซึ่งหลายครอบครัวอาจกำลังคิดเรื่องประกันเพื่อคุ้มครองลูก เนื่องจากมีความกังวลใจทั้งในแง่ของสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตของลูกน้อย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความคิดว่าเมื่อทำไปแล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ เพราะกลัวว่าจะต้องจ่ายประกันไปแบบสูญเปล่า เพราะฉะนั้นวันนี้ เอไอเอ เรามีความตอบมาแชร์กันเพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณพ่อและคุณแม่
ทำไมต้องทำประกันสำหรับเด็ก?
1. กรณีลูกน้อยเจ็บป่วย แต่ไม่สามารถสื่อสารได้
โดยปกติแล้วเด็กแรกเกิดจนถึงวัยก่อนเข้าโรงเรียน เมื่อมีอาการเจ็บป่วยขึ้นมา เด็กจะไม่สามารถสื่อสารกับพ่อแม่ให้เข้าใจ สิ่งที่เด็กๆ มักจะทำได้ คือการเปล่งเสียงร้องไห้และอาจจะมีการแสดงออกผ่านท่าทางทางกายภาพออกมา ซึ่งทำให้ยากต่อการคาดเดาว่าเด็กกำลังมีปัญหาอะไร เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำ คือการพาลูกน้อยไปตรวจและวินิจฉัยอาการที่โรงพยาบาลและพูดคุยกับคุณหมอ
แม้ว่าอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยเหล่านี้ บางครั้งอาจจะไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่สูงแต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉลี่ย 1 ปีอาจจะมีความจำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล 2-3 ครั้ง หากเป็นผู้ป่วยนอกค่าใช้จ่ายต่อครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 1,200 – 3,000 บาท หรือหากต้องนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 20,000 บาทแล้วแต่โรคหรืออาการ
2. กรณีที่ลูกน้อยมีอาการป่วยหนัก จนต้องนอนโรงพยาบาล
เชื้อโรคหรือไวรัสในสมัยนี้มีการพัฒนาความรุนแรงและระบาดเร็วมากขึ้น อาจทำให้ลูกน้อยต้องเจ็บป่วยจนมีอาการที่รุนแรงได้ จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์เฝ้าดูอาการและรักษาอย่างใกล้ชิด อย่างน้อยประมาณ 3-7 วัน ซึ่งนั้นหมายความว่าค่าใช้จ่ายก็จะต้องสูงตามไปด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าห้องพัก รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาเด็กเล็กในโรงพยาบาล (เอกชน) จะอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 20,000 บาท
3. เด็กเล็กมีภูมิคุ้มกันต่ำและเปราะบาง
เด็กเล็กมีภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรง ทำให้มีโอกาสเจ็บป่วย ไม่สบาย ติดเชื้อง่ายและมีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้ ซึ่งอาการเจ็บป่วยครั้งที่สองหรือการติดเชื้อซ้ำนี่แหละ ที่อาจจะมีอาการรุนแรงขึ้นจึงต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาการรุนแรงขึ้น ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
ข้อดีของการมีประกันสำหรับเด็กคือ
เด็กช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี เป็นช่วงที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรง คุณพ่อคุณแม่มีโอกาสที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูงขึ้น ดังนั้นการมีประกันสุขภาพสำหรับเด็กไว้จะช่วยคุ้มครองโรคที่หลากหลายได้ มีการตรวจอย่างละเอียด และได้รับการรักษาที่ถูกต้อง รวมไปถึงยังช่วยแบ่งเบาเรื่องค่าใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างมาก
ทริคง่ายๆ สำหรับการเลือกประกันสุขภาพเด็ก
ดูรายละเอียดเรื่องความคุ้มครองของกรมธรรม์: ตั้งโจทย์หรือคำถามที่เกี่ยวกับความต้องการขึ้นมา เช่น ความคุ้มครองช่วงอายุเท่าไหร่? ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านใดบ้าง? มีโรงพยาบาลในเครือข่ายมากน้อยแค่ไหนและอยู่ใกล้พื้นที่ของเราหรือไม่? ระยะรอคอยเป็นอย่างไร? มีวงเงินประกันเท่าไหร่?
รวมไปรายละเอียดประเภทของความคุ้มครองต่างๆ ด้วย เช่น
– ความคุ้มครองสำหรับผู้ป่วยนอก (OPD) เข้ารักษาได้กี่ครั้งต่อปี ให้ความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้งหรือต่อปีเท่าไหร่
– ความคุ้มครองสำหรับผู้ป่วยใน (IPD) ครอบคลุมโรคอะไรบ้าง ผลประโยชน์สูงสุดต่อครั้งเท่าไร
– ความคุ้มครองสำหรับอุบัติเหตุ (PA) จะรักษาเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น และส่วนใหญ่จะรักษาภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น
เลือกจากความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน: นอกจากการหารีวิว ตรวจสอบความคิดเห็นของผู้บริโภคจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ และสอบถามรายละเอียดจากตัวแทนประกันแล้ว เราควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทประกันที่เราสนใจอีกด้วยว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ มีแอปพลิเคชัน Call Center หรือหน่วยงานบริการลูกค้ากี่ช่องทาง ติดต่อง่ายหรือยาก รวมไปถึงพิจารณาข้อดีและข้อเสียแต่ละแห่งอย่างละเอียด
ตั้งงบประมาณสำหรับการซื้อประกันสุขภาพเด็กให้พอดีกับค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว: เวลาเลือกแผนประกันสุขภาพให้ลูกน้อย คุณพ่อและคุณแม่ต้องเปรียบเทียบ ผลประโยชน์ต่างๆ วงเงินค่ารักษาที่คุ้มครองในกรมธรรม์นั้น และควรเลือกแผนประกันที่เหมาะกับงบประมาณที่มี การชำระค่าเบี้ยควรมีความพอดีกับแผนค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว โดยในปัจจุบันนี้การทำประกันสุขภาพสามารถแบ่งชำระได้ เช่น แบ่งชำระผ่านบัตรเครติด หรือผ่อนรายงวดต่อเดือน
การมีประกันสุขภาพสำหรับเด็กถือว่าเป็นอีกหนึ่งการวางแผนชีวิตครอบครัวที่สำคัญ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรมีตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของลูกรักและแบ่งเบาภาระภายในครอบครัวอย่าง AIA Health Happy, AIA Health Saver และ AIA H&S Extra (new standard) ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่คลายความกังวลได้
AIA Health Happy มีจุดเด่นอย่างไร
– อายุผู้ข้อเอาประกันภัย อายุ 6 – 75 ปี ต่ออายุถึง 98 ปี
– เบี้ยฯ จ่ายตามความเสี่ยงจริง เพิ่มตามอายุ
– จ่ายค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 25 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์1
– เบิ้ลให้ 2 เท่า2 หากตรวจพบเป็นโรคร้ายแรง3
– ได้รับคำแนะนำด้านสุขภาพด้วยบริการเสริมจากเอไอเอและพันธมิตร
AIA Health Saver มีจุดเด่นอย่างไร
– อายุผู้ขอเอาประกันภัยตั้งแต่ 15 วัน – 75 ปี ต่ออายุถึง 98 ปี
– มีความคุ้มครองให้ทั้ง IPD และ OPD
– ค่าเบี้ยฯ ระดับกลาง ๆ อยู่ ในช่วงที่คุณพ่อคุณแม่เข้าถึงได้
– คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล สูงสุด 500,000 บาท